จะเห็นได้ว่าเงินลงทุนสำหรับเริ่มทำธุรกิจผลิตน้ำดื่มขายจะอยู่ที่ราว ๆ 30, 000-1, 000, 000 บาท ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าต้องการสร้างโรงงานผลิตน้ำดื่มเอง หรือจ้างโรงงานอื่นผลิตให้ ถ้าท่านมีความสนใจอยากที่ผลิตน้ำดื่มแบรนด์ตัวเองสำหรับขาย หรือเป็นน้ำดื่มบรรจุขวดที่ใช้สำหรับการประชาสัมพันธ์ตามกิจกรรมต่าง ๆ เช่น งามสัมมนา น้ำดื่มแบรนด์โรงแรม รีสอร์ท ฯลฯ ก็สามารถติดต่อสอบถามเรื่องการลงทุนผลิตน้ำดื่มกับทางทีมงานของเราได้เลยค่ะ ที่สำคัญ ฟรี! ค่าบล็อก ค่าเพลทการผลิต ช่วยลดต้นทุนการทำน้ำดื่มขายได้เป็นอย่างดี รับผลิตน้ำดื่มบรรจุขวด แบรนด์ตัวเอง ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ก็มีแบรนด์น้ำดื่มของตัวเองได้ รับผลิตน้ำดื่มแบรนด์ตัวเอง แบบไม่มีขั้นต่ำ พร้อมทำเรื่องขอ อย. ให้ฟรี ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ——- ช่องทางการติดต่อเรา All Print OK ดูช่องทางการติดต่อทั้งหมด: Line@: @allprintok Facebook Page: Allprint OK Facebook Messenger: Allprint OK โทรติดต่อ: 0823491771
ราคาขาย 14 บาท ช่วงแรกที่เข้ามาได้แบรนด์ได้แอ็กชั่นชิมลางโพสต์คอนเทนต์ลงบนเพจเฟซบุ๊กของแบรนด์กระแสตอบรับมีทั้งเชิง "บวก" ด้วยตอบโจทย์สุขภาพเพราะไม่มีน้ำตาล พลังงาน 0 แคลอรี และ "ลบ" ทั้งเรื่องราคา รสชาติ ความซ่า กลิ่น เกิดจากความคุ้นลิ้นชินรสชาติ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าสินค้าดังกล่าวยังไม่ตอบจริตการบริโภคของคนไทยในวงกว้าง เพราะแบรนด์ระดับโลก "อควาฟิน่าวิตซ่า" ของค่ายเป๊ปซี่ทำตลาดมานานกว่า 2 ปี ถือว่าไม่ได้สร้างความว้าว! เท่าที่ควร ต้องมาดูว่าเมื่อมีน้องใหม่จากเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ จะสามารถทำให้ตลาดหมวดนี้มีการโตแรงมากน้อยแค่ไหน เพราะก่อนหน้านี้ผู้บุกเบิกอย่าง "อควาฟิน่าวิตซ่า" ต้องการปลุกตลาดให้มีมูลค่าหลัก "พันล้านบาท" แต่ก็ยังไม่ถึงเสียที.
ราคา พื้นที่ จำนวนห้อง ลักษณะเด่น
เป็นการขายโดยบุคคลที่ อย. ไม่อนุญาตให้ขาย 2. โฆษณาด้วยการออกสื่อเช่นนี้ เป็นการโฆษณาผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ ต้องขออนุญาตก่อน แต่ก็ไม่ได้ขออนุญาต และ 3. ผลิตภัณฑ์ที่นำมาขายนั้น เท่าที่ดูเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับ อย. ซึ่งจากกรณีทั้งหมดนี้ ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย มีโทษตั้งแต่เบาไปหาหนัก สูงสุดคือ จำคุก 6 เดือน ปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท ดังนั้น จากนี้ อย. จะมีการส่งหนังสือเตือนไปยังพิมรี่พาย และให้เข้ามาพูดคุยกัน ซึ่งจะต้องดูเจตนาด้วยว่ามีเจตนาหรือไม่ หรือทำเพราะไม่รู้ว่าผิด เพราะบางคนที่ อย. เตือนไปแล้ว ก็เข้าใจ" นพ. สุรโชคกล่าว ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีการค้าขายผลิตภัณฑ์สุขภาพออนไลน์จำนวนมาก บางคนมองว่าแค่ขายของ ทำมาหากินจะอะไรกันนักกันหนา นพ. สุรโชคกล่าวว่า ขอย้ำว่า อย. ไม่ได้ห้ามเรื่องการโฆษณา สามารถโฆษณาได้ ก็เห็นตัวอย่างอยู่ แต่ อย. ไม่ได้อนุญาตให้ทุกผลิตภัณฑ์ ถ้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่เสี่ยง หรือเสี่ยงไม่มาก ประชาชนสามารถซื้อหามาใช้ได้ เช่น ยาสามัญประจำบ้าน ก็ให้โฆษณาได้ ถ้าเป็นยาอันตราย หรือยาควบคุมพิเศษก็ไม่อนุญาตให้โฆษณา แม้แต่อาหาร ถ้าเป็นอาหารทางการแพทย์ก็ไม่ได้อนุญาตให้มีการโฆษณาขาย แต่โฆษณาเฉพาะกับบุคคลบางอย่างได้ อย่างไรก็ตาม ในผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่ อย.
มีจำหน่ายแล้วตามร้านสะดวกซื้อทั่วไปในประเทศญี่ปุ่น ราคา 124 เยน (ราว 36 บาท) ใครที่ไประเทศญี่ปุ่นช่วงนี้ก็ไปหาซื้อกันได้ ส่วนรสชาติจะถูกปากของทุกคน หรือเหมือนกาแฟลาเต้ขนาดนี้ อันนี้อยู่ที่ความรู้สึกของแต่ละคนล้วนๆ อ้างอิง // SoraNews24 ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา
ผลิตน้ำดื่มขาย ลงทุนเท่าไหร่ ส่วนคำถามที่ว่า ทำน้ำดื่มขายลงทุนเท่าไหร่ ก็ขึ้นอยู่กับว่าท่านต้องการทำในโรงงานผลิตน้ำดื่มเอง หรือผลิตน้ำดื่มขายโดยใช้บริการจากบริษัทที่รับผลิตน้ำดื่มนั่นเองค่ะ เราลองมาดูกันเลยว่ากว่า ว่าทั้ง 2 กรณีนี้ ต้องใช้เงินลงทุนเท่าไหร่ถ้าต้องการผลิตน้ำดื่มขาย 1. ทำน้ำดื่มขายแบบสร้างโรงงานผลิตน้ำดื่มเอง หากต้องการสร้างโรงงานน้ำดื่มของตัวเอง ถ้าไม่คิดเรื่องค่าก่อสร้างโรงงาน (มีสถานที่อยู่แล้ว) คิดแค่ค่าเครื่องจักรอย่างเดียว ต้องใช้เงินลงทุนราว 600, 000-1, 000-000 บาท นับว่ามากพอตัวเลยทีเดียว ซึ่งถ้าหากเครื่องจักรมีประสิทธิภาพสูงก็จะผลิตได้เยอะ รายได้ก็จะอยู่ที่ยอดการผลิต หากผลิตได้จำนวนมากอาจลดต้นทุนได้มากถึงขวดละ 2 บาทเลยทีเดียว จะขายปลีกราคา 7-10 บาทหรือขายส่งที่ราคา 4-5 บาทได้แบบสบาย ๆ 2.
ท่ามกลางความร้อนระอุของอากาศที่นับวันจะยิ่งร้อนขึ้นทุกวัน ก็ยังร้อนไม่เท่ากับการแข่งขันใน "ตลาดเครื่องดื่ม" มูลค่ามหาศาลไม่ต่ำกว่า 2. 3 แสนล้านบาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน "ตลาดน้ำดื่ม" มูลค่ า36, 000 ล้านบาท ที่ยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องเป็นตัวเลข 2 หลักในช่วง 5 ปีมานี้ ในขณะที่กลุ่มอื่นๆ ยังอยู่ในภาวะประคองตัวหรือติดลบ "พ. ร. บ. สรรพสามิตฉบับใหม่" ทำตลาด "สะดุด" ที่เป็นอย่างนั้นเพราะเกิดความเคลื่อนไหวสำคัญของตลาดเครื่องดื่มในช่วง 2 ปีนี้ มาจาก "พ.
สารีกล่าวว่า สิ่งที่สะท้อนคือ คนมีความต้องการชุดตรวจเอทีเคมาก ดังนั้น หากต้องการแก้ไขปัญหาคนนำมาขายแบบนี้ รัฐบาลต้องรีบนำเข้าชุดตรวจที่มีคุณภาพสูงสุด รีบกระจายไปให้กลุ่มเสี่ยง และประชาชนมีความมั่นใจที่จะใช้ เพื่อที่ประชาชนไม่ต้องไปหาซื้อกันเอง ปัญหาเช่นนี้จะลดลง เมื่อถามว่า หากเป็นน้ำเปล่าธรรมดา แต่อ้างว่าเป็นน้ำแร่ มีความผิดหรือไม่ น. สารีกล่าวว่า ต้องมีการตรวจสอบ หากเป็นน้ำธรรมดา แต่บอกว่าเป็นน้ำแร่ก็ผิดหลายกระทง เมื่อถามต่อว่า หากเป็นการขายน้ำแล้วแถมชุดตรวจเอทีเค สามารถทำได้หรือไม่ น. สารีกล่าวว่า จริงๆ แล้ว ก็เป็นยุทธศาสตร์การขาย ส่วนจะแถมชุดตรวจเอทีเคได้หรือไม่ ต้องไปดูกฎหมายควบคุมเครื่องมือแพทย์ว่า นำมาแถมได้หรือไม่ เพราะจริงๆ แล้วหากเป็นยา เอามาแจกฟรี ก็ยังไม่สามารถทำได้
อนุญาตให้ทำการโฆษณาได้ ก็ต้องมาขออนุญาตโฆษณา เพื่อให้ อย. ดูเรื่องข้อความการสื่อสารถึงประชาชนไม่มีการโอเวอร์เคลม หรือกล่าวเกินจริง ด้าน น. สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า ได้เห็นข้อมูลดังกล่าวแล้ว ต้องไปดูว่าน้ำที่นำมาขายนั้นเป็นน้ำเปล่าบรรจุขวด หรือว่าเป็นน้ำแร่บรรจุขวด ซึ่งผู้ขายอาจไม่ทราบว่า กระทรวงพาณิชย์ (พณ. ) มีกฎหมายควบคุมราคาน้ำดื่มบรรจุขวดขนาด 500-600 ซีซี จำหน่ายไม่เกินขวดละ 7 บาท และขนาด 1, 500 ซีซี จำหน่ายไม่เกินขวดละ 14 บาท แต่หากเป็นน้ำแร่จริงในส่วนนี้ไม่มีการควบคุมราคา เพียงแต่ว่าต้องขายในราคาที่เหมาะสม แต่ไม่สามารถกำกับราคาได้จริง เลยมีออกมาในลักษณะตามร้านอาหารที่เพิ่มราคาด้วยการแช่เย็น หรือเปลี่ยนไปขายน้ำแร่ที่ไม่มีการควบคุมราคาแทน "หากไม่ใช่น้ำแร่ แล้วมาขายขวดละ 120 บาท คือผิดอยู่แล้ว พณ. จัดการได้ นี่เป็นการใช้เทคนิคที่มีการห้ามขายชุดตรวจเอทีเค เพราะต้องขายในร้ายยา เขาจึงอาศัยเทคนิค ไม่ขายแต่เอามาแถมซึ่งเป็นการตลาดทั่วไป แต่หากจะผิดกฎหมายก็ต้องไปดูน้ำที่ขายว่าเกินราคาหรือไม่ ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะนำน้ำแร่มาขายในราคานี้" น. สารีกล่าว และว่า แพลตฟอร์มที่มีการขายต้องรับผิดชอบ เพราะจริงๆ คนขายก็อยากขายชุดตรวจเอทีเค แต่ก็ไม่ควรจะมีการนำมาขายน้ำแล้วแถมชุดตรวจ นี่เป็นวิธีหลีกเลี่ยงชัดเจน ดังนั้น แพลตฟอร์มต้องเอาลง หรือบอยคอต (Boycott) การขาย เพราะเป็นการกระทำผิดกฎหมาย น.