หมายเหตุ: ขั้นตอนในการถอดประกอบชิ้นส่วนต่างๆ ขึ้นกับรถยนต์แต่ละรุ่น
รถเร่งไม่ขึ้น รถอืด รถเร่งขึ้นช้าไม่ทันใจ ขึ้นเขาก็ลำปบาก เมื่อต้องขับแซงก็เร่งไม่ไหว ซึ่งหากแซงไม่พ้นจะเกิดอันตรายขึ้นแน่ๆ ซึ่งอาการรถเร่งไม่ขึ้นนั้นเป็นอาการที่อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เรามาดูกันว่าสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้รถเร่งไม่ขึ้นนั้น เกิดจากสาเหตุใดบ้าง 1.
เนื้อพลาสติกที่ห่อหุ้มภายนอกหมดอายุ-เสื่อมสภาพ เบื้องต้นให้สังเกตุว่าคอยล์มีรอยแตกร้อยร้าวหรือไม่ จากนั้นใช้เทปพันสายไฟพันที่ ก้านของคอยล์แล้วขับทดสอบ ถ้าอาการดีขึ้นรถสะดุดน้อยลงแสดงว่าคอยล์รั่ว 2. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในเสื่อม-เสียหาย ทั้งนี้การเสื่อมสภาพดังกล่าว ส่วนใหญ่ มากจากความร้อนของเครื่องยนต์ สามารถทดสอบได้จากระยะการกระโดดของกระแสไฟที่จะสั้นกว่าปกติ หรือในรถบางรุ่นกล่อง ECU สามารถตรวจสอบข้อผิดพบพลาดได้ อายุการใช้งานของคอยล์ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แม้คอยล์ยี่ห้อ รุ่น เดียวกันแต่อยู่ในรถคนละคัน อายุการใช้งานยังอาจไม่เท่ากัน โดยเหตุผลหลักที่เป็นตัวแปรที่ชัดเจนที่สุด คือความร้อนของเครื่องยนต์ โดยเฉพาะรถที่ติสแก๊ส คอยล์จะเสื่อมเร็วเพราะ เครื่องร้อนกว่ารถที่ใช้น้ำมัน อย่างไรก็ตามหากสามารถถ่ายเทความร้อนได้ในระดับปกติ อายุการใช้งานคอยล์ ก็จะยืนยาวขึ้นด้วย. คอลัมน์: รู้ก่อนเหยียบ โดย "ช่างเอก" …............................. ขอบคุณข้อมูลจาก - -บริษัท มาสเตอร์ มอเตอร์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด /
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในคอยล์เสื่อม 2.
JTC-1720A อุปกรณ์ทดสอบคอยล์ และสายหัวเทียน • ตรวจสอบคุณภาพของระบบจุดระเบิด ได้แม่นยำสะดวก และปลอดภัย • ทดสอบคุณภาพของคอยล์ โดยดูจากการกระโดดของไฟ และระยะห่าง • ระบบปิดป้องกันไฟฟ้ากระโดดเมื่อใช้งานที่โวลท์สูง พร้อมสายคีบกราวด์ กำลังอัดกระบอกสูบ ระยะห่าง 9. 5: ต่ำกว่า 1 ซม. 9. 5:1 - 10. 5:1 1-2 ซม. 10. 5:1 - 11. 5:1 2. 5 ซม.
โชคนำชัยอะไหล่ยนต์ สาย4 ร้านขายหม้อน้ำรถยนต์ พื้นปูกระบะ แอโร่ลายเนอร์ ชิ้นส่วนอะไหล่บอดี้ ไฟหน้า ไฟท้าย กันชน หน้ากระจัง ประตู กระจกรถยนต์ บังโคลน ซุ่มล้อ บังฝุ่นล้อ รถยนต์ โช้คอัพKYB ร้านอะไหล่รถยนต์ราคาถูก ที่อยู่: 177/1-3 ถนนพุทธมณฑลสาย4 ต. กระทุ่มล้ม อ. สามพราน จ. นครปฐม 73220 โทร 02-420-8894-5 หยุดวันอาทิตย์ © 2017 ร้านอะไหล่รถ All Rights Reserved
1. คอยล์ที่มาเป็นชุดพร้อมสาย (มือ 2) ให้สังเกตุปลั๊กไฟเสียบที่คอยล์ (บีบ) + สายไฟจะต้องนิ่ม ไม่แข็ง ส่วนยางก้านคอยล์สวมแล้วต้องแน่น สีไม่ซีด ยางไม่ขาด 2. สังเกตุขณะถอดคอยล์ออกมาดูว่าพบร่องรอยอาร์ค (ไฟรั่ว) ขาวๆ บริเวณที่ตัวคอยล์ หรือผนังรอบๆ คอยล์ที่เสียบหัวเทียนหรือไม่ 3. ตัวคอยล์ ให้ถอดยางก้านคอยล์+สปริงออก ใช้ไฟฉายส่องบริเวณรอบๆ แกนทั้งด้านนอก และด้านใน (อลูมิเนียม) จะต้องไม่มีรอยร้าวหรือแตก รวมถึงบริเวณที่เสียบสายคอยล์ด้วยเช่นกัน 4. วัดค่าโอมห์ที่ปลั๊กไฟเสียบคอยล์ ค่าที่ได้จะอยู่ที่ 0. 6-0. 8 ค่าที่ได้ต้องนิ่ง ไม่แกว่ง หากเกิน หรือไม่นิ่ง ขดลวดภายในมีปัญหา หรือเสื่อม ***หรือเช็คว่าขดลวดถึงกันหรือไม่ โดยปรับมิเตอร์ไปที่วัดความต้านทานต่ำ (วัดสาย) แตะที่ขั้วทั้งสองจะได้ยินเสียงดังตี๊ดยาวๆ แสดงว่าขดลวดถึงกันไม่ขาดใน*** 5. วัดค่าโอมห์ที่ช่องเสียบสายคอยล์ กับก้านคอยล์เสียบหัวเทียน ค่า k โอมห์ที่ได้จะอยู่ที่ 8-15 6. ทดสอบจากรถยนต์ เลือกสูบด้านในสุด (vvti) สะดวกและง่ายต่อการถอดเปลี่ยน ถ้ารถติดแก๊สมาให้เทสขณะเป็นแก๊สซึ่งจะไวกว่าน้ำมันมาก รับรู้ได้ทันที โดยการสตาร์ทเครื่อง ใช้มือแตะที่คันเร่งเบาๆ 4-5 รอบ ฟังเสียงถ้าคอยล์รั่วเครื่องจะสะดุด ***กรณีคอยล์รั่วน้อยอาจไม่เห็นความแตกต่างมากนัก*** 7.