หรือ "In my opinion…" เด็ดขาด และเหตุผลประกอบการตัดสินใจว่าฝั่งใดฟังดูน่าเชื่อถือกว่าฝั่งใดนั้นจะมาจากบทความที่โจทย์ให้มาเท่านั้น " ห้ามคิดไปเอง " ให้ใช้หลักฐานที่ได้จากการอ่านบทความ เช่น ค่าสถิติต่าง ๆ หรือข้อมูลที่ได้มานั้น มาจากองค์กรที่น่าเชื่อถือหรือไม่? หรือเป็นแค่เพียงการตีความไปฝ่ายเดียว อีกสิ่งที่ต้องระวังให้ดีสำหรับการเขียน GED Essay คือ ห้ามทำการสรุปเนื้อหาของบทความลงไป เนื่องจากสิ่งที่น้อง ๆ ต้องเขียน คือบทวิเคราะห์ของเรา ไม่ใช่การสรุปเนื้อหาลงในงานเขียนของเรา โดยสิ่งที่โจทย์เตรียมให้เรา จะมี 2 ส่วน ได้แก่ 1. บทความจากทั้งสองมุมมอง ซึ่งขัดแย้งกัน 2.
แบบทดสอบ วัดความรู้ ความเข้าใจ และทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์ เรื่อง การเขียนเรียงความเชิงสร้างสรรค์
1 ๑. ข้อใดเป็นสิ่งที่ผู้เขียนเรียงความแสดงออกผ่านการเขียนเรียงความ ก. ความรู้สึกนึกคิด ข. ความคิดเห็น ความเข้าใจ ค. ความรู้ ง. ถูกทุกข้อ 2 ๒. การวางโครงเรื่องคืออะไร ก. การเรียบเรียงความคิด ข. การแสดงความรู้สึกนึกคิด ค. การเขียนให้ผู้อ่านได้รับทราบ ง. การใช้ภาษาในการเขียนให้ถูกต้องและเคร่งครัด 3 ๓. ข้อใดคือประโยชน์ของการวางโครงเรื่อง ก. ช่วยถ่ายทอดความคิดความรู้สึก ข. ช่วยให้งานเขียนสมบูรณ์ ค. ช่วยให้มีการลำดับความที่ดี ง. ช่วยให้อ่านได้เข้าใจยิ่งขึ้น 4 ๔. องค์ประกอบของการเขียนเรียงความมีกี่ข้อ ก. ๒ ข้อ ข. ๓ ข้อ ค. ๔ ข้อ ง. ๕ ข้อ 5 ๕. การเขียนเรียงความที่ดีต้องอาศัยสิ่งใด ก. องค์ประกอบ ข. วิธีการเขียน ค. การเรียบเรียงข้อความ ง. ความสามารถ 6 ๖. ข้อใดเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดในการเขียนเรียงความ ก. เนื้อเรื่อง ข. สรุป ค. คำนำ ง. โครงเรื่อง 7 ๗. คำนำที่ดีความมีลักษณะอย่างไร ก. นำประวัติศาสตร์ที่รู้จักกันดีมาเขียน ข. ขึ้นคำนำด้วยคำบอกเล่ายาว ๆ ค. ดึงดูดให้ผู้อ่านติดตาม ง. แทรกความคิดเห็นของผู้เขียน 8 ๘. ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของการเขียนเรียงความ ก. คำนำ ข. การวางโครงเรื่อง ค. เนื้อเรื่อง ง.
วัตถุประสงค์ที่ 1 บอกองค์ประกอบของเรียงความได้ น้ำหนักคะแนน …………………………. 1. เรียงความ หมายถึงข้อใด ก. การเขียนพรรณนาด้วยบทกวี ข. การเขียนอธิบายเหตุและผลอย่างเป็นลำดับ ค. การเขียนจะถ่ายทอดความรู้ ความคิด ทรรศนะ ง. การเขียนรายงานเป็นบทๆ เพื่อนำเสนอเรื่องราว 2. ข้อใดเป็นองค์ประกอบส่วนสุดท้ายของเรียงความ ก. สรุป ข. คำนำ ค. ชื่อเรื่อง ง. เนื้อความ 3. ข้อใดเป็นองค์ประกอบส่วนแรกของเรียงความ 4. ส่วนที่เป็นการเขียนเน้นความรู้ ความคิดหลักหรือประเด็น สำคัญของเรียงความที่เขียนอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเป็นการเพิ่ม คุณค่าของเนื้อหา หมายถึงส่วนใด วัตถุประสงค์ที่ 2 บอกกระบวนการและหลักการเขียนเรียงความที่ดีได้ 1. ข้อใด ไม่ใช่ หลักในการเขียนเรียงความที่ดี ก. เขียนถูกต้อง ข. ลายมือสวยงาม ค. เรียงประโยคได้ใจความ ง. คัดลอกเนื้อหาหรือประโยคที่ดีจากของผู้อื่น 2. ข้อใดเป็นหลักการวางโครงเรื่องการเขียนเรียงความที่ดี ก. วางโครงเรื่องตามสะดวกของผู้เขียน ข. วางโครงเรื่องจากหน่วยเล็กไปสู่หน่วยใหญ่ ค. วางโครงเรื่องเรียงไม่ตามลำดับเวลาที่เกิดเหตุการณ์ ง. วางโครงเรื่องตามประสบการณ์ของผู้เขียนเรียงความ 3. ข้อใด ไม่ใช่ ศิลปะของการเขียนเรียงความ ก.
การทดสอบอ่านและเขียนภาษาไทยนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ - ๖ ประจำเดือน มกราคม ๒๕๖๐ เป็นข้อสอบของสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สพฐ. จึงให้โรงเรียนดำเนินการ ดังนี้ ๑. ดาวน์โหลดคู่มือ. แล้วศึกษารายละเอียดให้เข้าใจ ๒. ฝึกทักษะนักเรียนให้มีความรู้ความสามารถ โดยยึดผังข้อสอบเป็นสำคัญ ๓. แต่งตั้งกรรมการดำเนินการทดสอบโดยมิให้ครูประจำชั้นเป็นกรรมการคุมสอบ ๔. แต่งตั้งกรรมการดาวน์โหลดข้อสอบ จากห้องนิเทศออนไลน์ ศน. คำตา อ้วนสาเล และจัดทำข้อสอบในวันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๖๐ ๕. จัดโต๊ะ เก้าอี้ สำหรับให้นักเรียนนั่งสอบโดยให้มีระยะห่างพอสมควร เพื่อป้องกันการคัดลอกข้อสอบซึ่งกันและกัน ๖. ดำเนินการสอบในวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๖๐ และกำชับให้กรรมการคุมสอบ ยึดระเบียบการสอบอย่างเคร่งครัด ๗. แจ้งให้กรรมการคุมสอบดำเนินการตรวจข้อสอบ กรอกแบบบันทึกคะแนนที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วน ๘. รายงานระดับคุณภาพการอ่านการเขียนผ่านระบบออนไลน์ที่ห้องนิเทศออนไลน์ ศน. คำตา อ้วนสาเล ประจำเดือนมกราคม ๒๕๖๐ ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๐ ๙. รายงานระดับคุณภาพการอ่านการเขียนผ่านระบบ e - MES ภายในวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๖๐ คำชี้แจงการอ่าน (สำหรับกรรมการ) ป.
ปรึกษาทุกเรื่องสอบ GED โทร. 0-2644-6006-7 LINE: @houseofgriffin
๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖ คำชี้แจงการเขียน (สำหรับกรรมการ) ป. ๖ ข้อสอบการอ่าน ป. ๖ ข้อสอบการเขียน ป. ๖
อ่านโจทย์ให้เข้าใจ ตีโจทย์ให้แตก เมื่อได้โจทย์มาแล้ว สิ่งที่ควรทำคือการใช้เวลาที่มีในการตีความโจทย์ให้เข้าใจก่อนเริ่มลงมือเขียนเสมอ และคิดให้ดี ๆ ว่า โจทย์อยากได้คำตอบแบบไหนจากเรา ซึ่งคำตอบก็คือ บทวิเคราะห์ ไม่ใช่ความคิดเห็นของเรานั่นเอง การเริ่มลงมือเขียนทันทีที่ได้โจทย์มา เพียงเพราะอยากจะรีบทำให้ทันใน 45 นาที อาจจะไม่ได้ทำให้เราได้คะแนนดีอย่างที่หวังไว้ การวิเคราะห์โจทย์ให้ดีและค่อย ๆ ลงมือเขียนให้ตรงจุดต่างหากที่จะทำให้เราได้คะแนนตามเป้าหมาย 2. เริ่มเขียนแพลนคร่าวๆ โดยปกติแล้วแนะนำว่าให้ใช้เวลา 3-5 นาที ในการเขียนแพลนคำตอบของเราลงในที่ว่าง เพื่อกำหนดทิศทางคำตอบ และเป็นการเช็คคำตอบไปในเวลาเดียวกันว่าตรงกับที่โจทย์ถามหรือไม่ ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญมาก และหลาย ๆ ครั้ง ผู้เข้าสอบมักจะลืมหรือละเลยไป ทำให้ไม่ได้คะแนนอย่างที่ต้องการ เมื่อได้คำถามมาแล้ว ให้ทำการเขียนแพลน บทนำ (Introduction), เนื้อหา (body) และ บทสรุป (conclusion) โดยเขียนเป็นคำสั้น ๆ ที่สรุปคำตอบของเราไว้ อาจทำเป็น bullet points ก็ได้เพื่อเป็นการประหยัดเวลา 3.
แบบทดสอบก่อน-หลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 เรื่อง การเขียนเรียงความ ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว